
Airmax ระบบที่ทาง Ubiquiti พยายามผักดันให้หลายๆ คนได้รู้จัก ทั้งๆ ที่ระบบ Airmax ก็คือการปรับโปโตคอลเป็นแบบ TDMA คล้ายๆ กับที่อยู่ในมือถือของเราๆ ท่านๆ นี่เอง
ระบบ TDMA ถูกรวมเข้าไปอยู่ในอุปกรณ์ Wireless ของค่ายโมโตนานแล้วซึ่งสินค้าของค่ายนี้ก็การันตีเรื่องราคามานานเช่นกัน แต่ที่น่าเสียดายก็คือมันไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในมาตราฐาน IEEE
ซึ่งอาจเป็นเพราะต้นกำเนิดของระบบ Wireless ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานหนักเช่นปัจจุบัน แต่ด้วยคุณสมบัติที่ดีของมัน ทางค่าย Ubiquiti จึงนำมาบรรจุในสินค้าตระกูล M ของเขาทั้งหมด
เพื่อหวังตลาดผู้ให้บริการหรือ ISP และการทำระบบ PtMP (1 จุดไปหลายๆ จุด) แต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นระบบที่ทำออกมาขายเพียงเจ้าเดียวก็เลยต้องผลักดันกันหนักหน่อย
เพราะเมื่อระบบนี้ยังไม่ได้การรับรองมาตราฐาน IEEE ทางค่ายอื่นๆ ก็เลยไม่กล้าผลิตกัน ดังนั้นระบบ Airmax จึงเสมือนเป็นการบังคับใช้ผลิตภัณฑ์ของค่ายเดียว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ต้องการเซตระบบเป็น Airmax และต้องการเซตระบบเป็นแบบ Wireless-G/N ธรรมดาก็ปิด Function Airmax ที่ Tab แรกไปก็เท่านั้น

ข้อ ดี ของ Airmax (ถ้าเปิดใช้งาน)
รองรับ User จำนวนมากๆได้ดี 300 Subscriber/BaseStation
ทำความเร็วได้สม่ำเสมอ
ค่าเวลาการตอบสนองของ AP ต่ำ (Latency)
ทำความเร็วได้สูง ยิ่งกว่ามาตรฐาน Wireless N (IEEE 802.11n)
มีอุปกรณ์รองรับการใช้งานหลายรุ่นตามระยะทางที่ต้องการ
สามารถทำระยะทางได้สูงถึง 7 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับทักษะการติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้)
ลดปัญหาเรื่องระดับสัญญาณไม่ดี.. เพราะทุกๆจุดต้องตั้งเสาขึ้นมารับสัญญาณ ข้อ เสีย ของ Airmax
ลงทุนสูงกว่าระบบ Hotspot ปกติ
User/Client หรือ คนที่เข้ามาเกาะใช้งาน ต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับระบบ Airmax เท่านั้น
อุปกรณ์นั้นต้องรองรับ เทคโนโลยีสื่อสารแบบ Airmax TDMA ด้วย
ถ้าอยากใช้งาน Airmax ต้อง ซื้อ ตัวรับสัญญาณที่รองรับระบบ Airmax มาใช้ร่วมด้วยเท่านั้น
ไม่สามารถใช้อุปกรณ์มาตรฐาน Wireless B, G, N ทั่วๆไปได้ (ดังนั้นอยากใช้โหมด B,G,N ก็ต้องไปปิด Airmax ..) -----------------------------------------------------------------------------------------















-----------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น